ยุคนี้ถ้าเห็นใครก้มหน้าก้มตาไม่พูดคุยกับใครก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาเดินทาง รออาหารมาเสิร์ฟ หรือแม้กระทั่งตอนนั่งเล่นเรื่อย ๆ ทุกคนก็แทบจะไม่เงยหน้าจากจอสมาร์ทโฟนกันเลย เรียกว่าชีวิตติดหน้าจอจนติดเป็นนิสัยไปแล้ว
หรือต่อให้เราไม่ได้เล่นสมาร์ทโฟนนาน ๆ ก็จริง แต่ชีวิตการทำงานก็บังคับให้เราต้องจ้องจอคอมพิวเตอร์แทบทั้งวัน แม้ตาจะล้าจะเบลอจนอยากหยุดพักสายตามากแค่ไหน แต่ทำอย่างนั้นได้ซะที่ไหน เพราะงานก็เร่ง เจ้านายก็จ้อง เลยต้องรีบปั่นงานให้เสร็จ สุดท้ายเลยต้องเพ่งหน้าจอทำงานวนไปจนเลิกงาน พร้อมกับรับสภาพสายตาที่แสนจะปวดจะล้า พอขับรถกลับบ้านรู้สึกปวดตาตาล้าเหลือเกิน ยิ่งเจอไฟข้างทาง ไฟรถคันข้างหน้ามันแยงตา ยิ่งอยากจะจอดพักข้างทางแต่ก็ทำไม่ได้ ต้องฝืนขับรถต่อไป ถึงบ้านปุ๊บ ตาก็แทบจะปิด อยากล้มตัวลงนอนซะตรงนั้น
แต่บอกตรงนี้เลยค่ะว่า การที่เราตาล้าตาเบลอแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะมองข้ามเลยเด็ดขาด เพราะนี่อาจเป็นต้นตอของความผิดพลาดเสียหายในชีวิตได้หลายด้าน ถึงขนาดดูผิดนิดเดียว ชีวิตเปลี่ยนได้เลย เหมือนกับประสบการณ์ของใครหลายคนที่เคยส่งอีเมลให้ลูกค้าผิดเจ้า เพราะสายตาเบลอ ๆ อ่านชื่ออีเมลผิดไปตัวหนึ่ง กดส่งไปเรียบร้อย ก็ทำได้แต่นั่งอ้าปากค้างอยู่หน้าจอ โอย...นี่ถ้าเป็นอีเมลสำคัญหรือเป็นความลับของบริษัท ก็เตรียมตัวเก็บของ ตกงานแบบฟ้าผ่าได้เลย จะโทษใครก็ไม่ได้เพราะเกิดจากความเบลอของสายตาตัวเองล้วน ๆ
หรือนักเรียน-นักศึกษาก็ที่ต้องเพ่งอ่านหนังสือสอบทั้งคืน รู้ไหมว่าอาจทำให้สายตาล้ามาถึงตอนเช้า ทีนี้ล่ะได้เดินเข้าห้องสอบไปแบบมึน ๆ สุดท้ายตาเบลอกาคำตอบผิดช่อง สอบตกไม่รู้เรื่อง แบบนี้งานเข้าเต็ม ๆ โธ่...อุตส่าห์อดหลับอดนอนนั่งท่องหนังสือมาดิบดี กลับมาตกม้าตายเพราะความเบลอของสายตาซะนี่
ไม่ใช่แค่นั้นนะคะ เพราะแค่เรื่องมองผิดมองพลาดอาจกลายเป็นเรื่องคอขาดบาดตายของหนุ่ม ๆ ได้ อย่างเช่น ถ้าใครวางแผนไว้ดิบดีว่าจะหนีไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ดันพิมพ์แชทผิดไปหาแฟน แฉแผนตัวเองเพราะความพร่าเบลอของสายตา หรือแอบมีกิ๊กแล้วแชทไปคุยผิดคนอีก บอกได้คำเดียวเลยว่างานนี้ตัวใครตัวมันจ้า
ส่วนสาว ๆ นักช้อปออนไลน์เองก็อย่าชะล่าใจกับความเบลอของสายตาไป เพราะถ้ากดสั่งซื้อเสื้อผ้าผิดไซส์ หรือละลานตากับสินค้าหน้าจอ เกิดอาการตาพร่าเบลอโอนเงินค่าซื้อสินค้าเกินจำนวนไปหรือพลาดไปกดเลขบัญชีผิด โอ๊ย...อยากจะร้องไห้ !
เห็นไหมคะว่าความผิดพลาดเหล่านี้เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเราได้ทั้งนั้น ซึ่งเคสที่ว่าไปนี้ยังแค่เบา ๆ นะคะ เพราะถ้าเป็นเหตุการณ์ที่เข้าขั้นคอขาดบาดตายกว่านี้ อย่างเช่น ใช้สายตาจ้องจอคอมพิวเตอร์มาทั้งวัน แล้วไปขับรถกลับบ้านตอนมืด ๆ สายตาที่เหนื่อยล้าและเบลอ ทำให้มองเห็นถนนไม่ชัดเจนพลาดไปขับรถชน หรือไปเฉี่ยวชนคนเดินข้ามถนนเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ เจอแบบนี้เข้าไปชีวิตเปลี่ยน เสียทั้งเงิน เสียทั้งความรู้สึก แถมยังอาจเจ็บตัวกันอีกต่างหาก
อ๊ะ ! และอย่าเพิ่งคิดว่าเรายังหนุ่มยังสาว ดวงตายังใสปิ๊ง มองเห็นอะไรก็ชัด เพราะจริง ๆ แล้วอาการตาล้า ตาเบลอเกิดขึ้นได้กับทุกคนเลย โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์คนยุคนี้ที่จ้องจอคอมพิวเตอร์ตลอดเวลาการทำงาน แถมเล่นสมาร์ทโฟนติดต่อกันหลายชั่วโมงตั้งแต่ตื่นจนหลับ กลับบ้านก็ยังดูโทรทัศน์จนดึกดื่น เคยสังเกตไหมว่าเมื่อเงยหน้าจากจอขึ้นมาแวบแรกจะรู้สึกได้เลยว่าสายตาต้องพยายามปรับหาจุดโฟกัสอยู่หลายนาที ดีไม่ดีบางคนอาจเกิดอาการตาล้า ตาเบลอต่อเนื่องแบบนี้ไปอีกทั้งวัน จนก่อให้เกิดความผิดพลาดในชีวิตอย่างที่เราเล่าให้ฟังไปเมื่อกี้ก็ได้
และในเมื่อใช้ดวงตากันหนักขนาดนี้ แค่พักสายตาชั่วครั้งชั่วคราวคงไม่เพียงพอแน่ ๆ ค่ะ ถ้าจะให้ดี ต้องบำรุงสายตาด้วยวิตามินเอ 100% ตามสัดส่วนที่ร่างกายต้องการต่อวัน เพราะวิตามินเอมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องการบำรุงดูแลสุขภาพดวงตาโดยตรง จึงมีส่วนช่วยในกระบวนการมองเห็น ช่วยลดภาวะตาแห้ง ทำให้ดวงตาชุ่มชื้น พร้อมทั้งป้องกันโรคตามัวในตอนกลางคืน ซึ่งจำเป็นมาก ๆ ถ้าใครต้องขับรถกลับบ้าน หรือขับไปไหนตอนเย็น ๆ ค่ำมืด
ถ้าใครสงสัยว่าเราจะรับวิตามินเอได้จากไหนบ้าง บอกตรงนี้ค่ะว่า เราสามารถรับวิตามินเอได้จากผัก-ผลไม้ที่มีสีเหลือง ส้ม แดง และเขียวเข้ม อย่างแครอท ฟักทอง ผักบุ้ง มะเขือเทศ มะละกอ ทว่าด้วยการดำเนินชีวิตในยุคดิจิตอลที่แสนจะเร่งรีบ อาจทำให้วันวันหนึ่งเรารับประทานอาหารได้ไม่ครบทั้ง 5 หมู่ และได้รับวิตามินเอไม่ถึงระดับที่ร่างกายต้องการก็เป็นได้ ดังนั้นเราจึงควรมองหาอาหารที่จะมาช่วยบำรุงสายตาได้โดยเฉพาะ
และผลไม้ตระกูลเบอร์รีก็คือผลไม้บำรุงสายตาที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาดเลยค่ะ ซึ่งอาจเลือกทานในรูปแบบของเบอร์รีสกัดเข้มข้นที่ประกอบด้วยผลไม้ตระกูลเบอร์รีหลากหลายชนิดในขวดเดียว ทั้งสตรอว์เบอร์รี, บิลเบอร์รี, แครนเบอร์รี, แบล็กเคอร์แรนต์, โช้คเบอร์รี, เอลเดอร์เบอร์รี และอาซาอิเบอร์รี ยืนยันด้วยงานวิจัยที่พบว่า ผลไม้ตระกูลเบอร์รีมีสารแอนโธไซยานิน มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มการไหลเวียนของหลอดเลือดฝอยในดวงตา คลายความเหนื่อยล้าของดวงตา และช่วยให้ดวงตาปรับการมองเห็นในที่มีแสงสว่างน้อยได้ดีขึ้นด้วย นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินหลายชนิดในผลไม้ตระกูลเบอร์รีก็ยังช่วยป้องกันเซลล์ต่าง ๆ ในดวงตาไม่ให้ถูกทำลาย ไม่ให้เกิดภาวะตาเสื่อมก่อนวัย และช่วยบำรุงดวงตาจากการใช้สายตาหนัก ๆ ตลอดทั้งวัน
ดวงตา เรามีกันอยู่คู่เดียว ใช้งานกันหนักขนาดนี้ แค่พักสายตาไม่พอแน่ค่ะ ดังนั้น ถ้าไม่อยากตาล้าตาเบลอจนชีวิตพัง #ดูผิดชีวิตเปลี่ยน ก็อย่ารีรอที่จะบำรุงดูแลดวงตากันนะคะ ถ้าเอาง่ายเอาสะดวก ก็เลือกดื่มเป็นพวกเบอร์รีสกัดเข้มข้น แล้วอย่าลืมเลือกที่มีปริมาณวิตามินเอ 100% ตามปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวันกันด้วยนะคะ
ที่มา : kapook.com
Microsoft เผยผลสำรวจ 10 อาชีพในอนาคตที่ผู้บริหารกลัวขาดคนในยุค AI
Bitkub HODL Day: สร้างวัฒนธรรมองค์กรอย่างสร้างสรรค์ ผ่านกีฬาสีที่ไม่เหมือนใครในแบบฉบับ “บิทคับ กรุ๊ป”
Orchidjobs บริการสรรหาพนักงานครบวงจร
สภาพัฒน์ฯ เผยผลสำรวจผู้บริหาร 74% ไม่จ้างพนักงานไร้ทักษะ AI ปัจจุบันคนไทยว่างงาน-หนี้เกินตัว ใช้โซเชียลกู้ยืมนอกระบบ
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
