ทำสิ่งที่รัก เหมือนไม่ได้ทำงาน! เปิดคอนโดฯ14 ล. 'แพร ธรรมวัฒนะ' เจ้าแม่ดิสนีย์เมืองไทย

  • 11 พ.ค. 2563
  • 4288
หางาน,สมัครงาน,งาน,ทำสิ่งที่รัก เหมือนไม่ได้ทำงาน! เปิดคอนโดฯ14 ล. 'แพร ธรรมวัฒนะ' เจ้าแม่ดิสนีย์เมืองไทย

คงจะไม่ผิดหากเรียกขานจากสิ่งที่ทำ ยกให้เธอเป็น 'เจ้าแม่ดิสนีย์เมืองไทย' เพราะสินค้าและของสะสมส่วนตัวแบรนด์ดิสนีย์มากมาย เรียกได้ว่ามาหาเธอแล้วจะไม่ผิดหวัง

"ของดิสนีย์ที่เรามีทุกอย่างพิเศษมากๆ เป็นลิมิเต็ด หรือการที่เอาความเป็นดีไซเนอร์มาดีไซน์เสื้อผ้ามาดัดแปลงทำให้สินค้าดิสนีย์มีความเก๋ ใส่ความเป็นแฟชั่นลงไป อย่างเสื้อผ้า กระเป๋า โปรเจกต์นี้มีเรามีที่เดียวเท่านั้นต่างประเทศก็ไม่มี"

จากวันที่ความชื่นชอบของเล่น กลายเป็นการสะสม และพัฒนากลายเป็นธุรกิจระดับใกล้ร้อยล้าน ไทยรัฐออนไลน์มีโอกาสพูดคุยกับ แพรพรรณ ธรรมวัฒนะ ลูกสาวคนโตของ เทอดชัย ธรรมวัฒนะ และ จินตนา ถึงเรื่องราวที่คุณจะได้รับแรงบันดาลใจ เพราะกว่าเธอจะมีวันนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

"เราสมัครงานก็ไม่มีคนรับเพราะคิดว่าแค่ว่ามีนามสกุลดัง" 

ด้านล่างเป็นบทสัมภาษณ์ที่จะทำให้คุณมีไฟ และให้แรงบันดาลใจหาของหรือสิ่งที่รัก ก้าวพัฒนาไปสู่ธุรกิจได้กับเจ้านักสะสมของดิสนีย์ที่หายากมากที่สุดในโลก หญิงสาววัย 28 ปี เจ้าของคำพูดที่ว่า 'ทำสิ่งที่รัก เหมือนไม่ได้ทำงาน' 

คอนโดฯ 14 ล้าน ย่านทองหล่อ

เรานัดกันที่คอนโดมิเนียม ราคา 14 ล้าน ประตูบ้านใหญ่เปิดเข้ามา สมราคา เป็นห้องที่ขนาดน่ารัก 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ การตกแต่งสไตล์โมเดิร์นนิดๆ หนึ่งในเจ้าของอาณาจักรของเล่นร้อยล้าน 'Play House'  (อ่านเพิ่ม : ชวนโหวตสร้างประวัติศาสตร์ ‘เพลย์เฮ้าส์’ อาณาจักรของเล่น! ลุ้นเป็นร้านของเล่นที่ดีที่สุดจากทั่วโลก)และ 'The Gate' บอกว่าอยากให้มันดูเป็นเอิร์ธโทน เป็นคอนโดฯที่ 2 หลังจากที่แรกตอนที่ทำพลาดตกแต่งเอง เพราะเลือกจากแฟชั่นมากกว่าฟังก์ชั่น 'พังค่ะ'

สวยงามแต่ใช้งานไม่ได้จริง เจ้าของห้องบอกว่าจากสถาปนึกในตอนนั้นก็เป็นบทเรียนที่ต้องจ้างคนมีออกแบบให้ สรุปแล้วก็ได้สไตล์แบบที่เราชื่นชอบ ตกแต่งน้อยๆ ห้องนอนก็ไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้ารองเท้า และก็ของสะสมดิสนีย์ ที่เยอะมากๆ

"บางชิ้นตอนนี้ราคาแพงมากระดับแสนเลยทีเดียว" แพรบอกว่า เธอได้แนวคิดแบบนี้มาจากน้องชาย  

พาเดินรอบห้อง ถ่ายรูปกันอยู่พักใหญ่ ก็ถึงเวลาที่เราต้องซักไซ้ ชีวิตเจ้าแม่ดิสนีย์เมืองไทยว่า ชีวิตง่ายเหมือนดีดนิ้วหรือเปล่า

เจ้าแม่ดิสนีย์

มาเป็นตับ

ช่วงที่ 1  - กว่าจะมาเป็นเจ้าแม่ดิสนีย์เมืองไทย

กว่าจะมีทุกวันนี้ เส้นทางเราไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ แพร ธรรมวัฒนะ เจ้าของฉายาเจ้าแม่ดิสนีย์ บอกแบบนั้นผ่านไทยรัฐออนไลน์และย้ำว่า ก่อนหน้าเรียนจบ ป.โทด้านแฟชั่นจากต่างประเทศไปสมัครงานแต่กลับไม่มีคนรับ โดยให้เหตุผลว่านามสกุลดังไม่น่าจะทำงานได้ทนทาน

"เชื่อไหมเราไปสมัครงานมาหลายที่ บางที่กรอกตำแหน่งที่เขารับหมดเลย แต่ก็ไม่ได้ แรกๆ ก็ไม่รู้เหตุผล ทั้งๆ ที่เราเรียนจบโททางด้านแฟชั่นมา มีประสบการณ์จากการฝึกงานที่นิวยอร์กมาตั้ง 6 เดือน ที่สุดก็รู้ความจริงจากเพื่อนที่ไปสมัครงานพร้อมกัน ตำแหน่งเดียวกันแถมเราเรียกเงินเดือนน้อยกว่า แต่เราไม่ได้ จึงตัดสินใจโทรไปสอบถาม HR บอกว่าผู้บริหารเขากลัวว่าถ้าเราเข้ามาแล้วมันมีปัญหาผลกระทบ กลัวทำงานไม่ทน กลัวมาล้วงความลับไปทำกิจการของตัวเอง โอ้โหตอนนั้นก็นอยส์ เครียดมาก"

จนกระทั่งวันหนึ่งโอกาสก็เป็นของเธอ บังเอิญเจอกับ 'ภูมินทร์ ยุวจรัสกุล' น้องชายของ 'มิลิน ยุวจรัสกุล' ดีไซเนอร์ชื่อดังถามเราว่า ยังว่างงานอยู่หรือเปล่า เธอตอบทันที 'ว่างค่ะ' จึงมีโอกาสได้ไปเรียนรู้งาน เป็น 1 ปีที่ได้อะไรมากมายจากที่นี่จริงๆ  

"แต่ก่อนเราทำงานกับอเมริกาอาจจะไม่ได้รู้เยอะ แต่มิลินทำให้แพรรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับธุรกิจในเมืองไทย แพรได้ทำทุกๆ อย่าง ไม่เคยเกี่ยง ถูพื้น พับผ้า ตอนนั้นเราได้ตำแหน่งเป็นมาเก็ตติ้งของมิลิน ยุคนั้นพนักงานอาจจะไม่ได้มีเยอะเท่าตอนนี้ มันทำให้เราได้ทำแทบทุกอย่างตั้งแต่ การคิดติดต่อพนักงานขาย ถ้าไม่มีเราก็ช่วยขายได้ ทำอยู่ 1 ปี 

บุกห้องนอน

ช่วงที่ 2 ความฝันและความเป็นจริง 

แม้จะบอกว่าความฝันก่อนหน้าก็คืออยากมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง แต่แพรยอมรับว่า พอได้ทำงานที่ 'มิลิน' รู้สึกว่ามันยาก มันไม่ใช่เรา เราวาดรูปไม่เก่ง หลังจากออกจากมิลินก็เปิดบริษัทนำเข้าของจากต่างประเทศ เป็นของผู้หญิง กระเป๋า สมุด หนังสือ เพราะคิดว่า คนไทยชอบของต่างประเทศ เพื่อให้คนไทยไม่ต้องบินไปไกลถึงต่างประเทศราคาเทียบเท่าหรือสูงกว่านิดหน่อย

"แพรไปได้แบรนด์ยี่ห้อหนึ่งมามันจะเป็นแบรนด์ดิสนีย์หมดเลย เราก็เอาขายในพารากอน ขายเครือเซ็นทรัล ตอนนั้นยังไม่มีเพลย์เฮ้าส์ (อ่านเพิ่ม : play house ) ตอนนั้นขายดีมาก เอาอะไรมาก็หมดเลย ห้างก็บอกเราว่าขายดีนะ แพรสนิทกับทีมจัดซื้อเขาก็เลยบอกว่าคุณแพรควรเริ่มทำจากตัวคาแรกเตอร์นะ คนซื้อเยอะกว่า เลยมานั่งคิดว่าทำไมเราไม่มีร้านเป็นของตัวเองจะได้ไม่ต้องเสียค่าฝากขาย กระทั่งช่วงที่น้องชาย (พงศธร ธรรมวัฒนะ) และแพรจัด Thailand toy Expo ครั้งแรก งานอลังการที่ไม่เคยจัดขึ้นในประเทศไทยก็มีปัญหาเรื่องค่าจัดงานที่ต้องออกเอง เครียดมากช่วงนั้น โชคดีที่ได้คุณแม่ช่วยเรื่องค่าใช้จ่าย และเจ้าของแบรนด์ของเล่นที่เห็นความตั้งใจของเราลดราคาของไปเยอะมากกว่า 50% แถมยังเพิ่มของเล่นลิมิเต็ดต่างๆ เพิ่มขึ้นอีก ทำให้งานครั้งนั้นกลายเป็นปรากฏการณ์คนแห่กันมามืดฟ้ามัวดินกว่า 3-4 แสนคน เรียกว่าเป็นการแจ้งเกิดของทั้งคู่เลยทีเดียว"

แพรบอกว่าจากค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเอง 20 ล้าน กลายเป็นขาดทุนแค่ 2 ล้าน ซึ่งพวกเธอมองว่า 2 ล้าน ไม่ใช่การขาดทุน เพราะพวกเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ลงทุนไปแล้ว ปีหน้าเรานำมันกลับมาใช้ใหม่ได้

"สิ่งแรกเลย 18 ล้าน เอาเงินไปคืนแม่ก่อน พอหลังจากนั้น แม่ แพร จิ๊บ ตกใจ เพราะเราไม่เคยเห็นมาก่อน ต่างชาติบินมา เราก็งงว่าเขารู้ได้ยังไง เขาบอกว่าคุณรู้ไหมว่าแบรนด์ต่างประเทศที่เราบินไปคุยมาก่อนหน้านี้เขาลงโปรโมตให้เราทั่วโลกให้เลยว่าเขาไปงานนี้ ใครอยากได้ตัวอันลิมิเต็ดต้องมาซื้อที่นี้เท่านั้น"

ตุ๊กตาของสะสม

ถึงเวลาเจ้าแม่ดิสนีย์เมืองไทย?

แล้วฉายาเจ้าแม่ดิสนีย์เมืองไทยมาตอนไหน เธอบอกว่า การลิขสิทธิ์ดิสนีย์มีหลายแบบทั้งของลิขสิทธิ์ตรงมาจากต่างประเทศ บางอันลิขสิทธิ์อยู่ในเมืองไทย และรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมาย เราจึงตัดสินใจไปดีลตรง 

"พูดได้ว่าเราเป็นเจ้าแรกที่มีของดิสนีย์ครบและเยอะที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากเราทำสัญญาในการนำเข้าสินค้าคุณภาพต่างประเทศ ราคาก็ต่างประเทศด้วย ซึ่งเราไม่เหมือนกับเจ้าอื่นในประเทศไทยแน่ๆ เป็นลิมิเต็ดที่เมืองนอกมีขาย เรามีทุกอย่างพิเศษมากๆ สมุด ปากกา กระเป๋าหนังอย่างดี ตุ๊กตาเซรามิก เคสโทรศัพท์พิเศษตรงของญี่ปุ่นจะน่ารักกว่า อันสุดท้ายดีไซน์ใหม่เอาความเป็นดีไซเนอร์มาดีไซน์เสื้อผ้า แพรเอามาทำเป็นเสื้อผ้าที่วัยรุ่นใส่ได้แล้วไม่อายใคร เอามาทำให้ดูเป็นแฟชั่นขึ้น โปรเจกต์นี้มีเรามีที่เดียวเท่านั้นต่างประเทศก็ไม่มี เราเป็นเจ้าแรกที่เอามาทำร่วมแล้วเราก็เปิดตัวมาคู่กันกับหนังซินเดอเรลล่า ซึ่งแน่นอนว่าทุกอย่างมีลิขสิทธิ์ถูกกฎหมาย" เธอย้ำเสียงหนักแน่น

เมื่อว่าอะไรคือเสน่ห์ของดิสนีย์?  แพรบอกว่า คาแรกเตอร์การ์ตูนที่ทำให้คนเข้าถึงได้ง่าย ช่วงเวลาที่เราดูการ์ตูน เวลาเราเครียดๆ เราหลุดลืมความเครียดไปได้ในระดับหนึ่ง จริงๆแพรว่าทุกตัวการ์ตูนมีเสน่ห์หมดแต่ดิสนีย์มันอยู่ในวงการนี้มานาน การ์ตูนพอมันเป็นดิสนีย์โอกาสที่คนจะซื้อตั๋วแล้วเข้าไปดูหนังสูงมาก

"เรามองว่ามันเป็นแบรนด์ที่มีตัวการ์ตูนที่คนรู้จักเยอะที่สุดในโลก อย่างฝั่งเอเชียจะเป็นแบรนด์ซานริโอ้ แพรจะใช้ซานริโอ้เป็น Case study ก่อนทำร้านตลอดเวลา แพรมองว่าซานริโอ้มีคิตตี้ในเมืองไทย ซึ่งดังมาก คิตตี้อยู่ในธุรกิจเมืองไทย 20 กว่าปีแล้ว เรามองว่าเดี๋ยวในอนาคตคนต้องเบื่อคิตตี้แน่เลย เราก็เลยคิดว่าจะเอาอะไรไปสู้ดี ดิสนีย์มีทั้งคาแรกเตอร์แล้วก็มีหนังออกมาเรื่อยๆ ยังไงก็ต้องมีคนชอบสักคาแรกเตอร์"

ของสะสมดิสนีย์ ที่มีมูลค่าและหายากมากที่สุด

ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าแม่ดิสนีย์ทั้งไม่เพียงแค่จำหน่าย แต่ส่วนตัวก็มีของดิสนีย์สะสมมากมาย เป็นของที่มีมูลค่าและหายากมากท่ีสุดด้วย แพรบอกว่า การซื้อของเล่นเหมือนเป็นการเก็งกำไร คือ เก็บไปเรื่อยๆ อีกสัก 10 ปี เชื่อว่าราคาจะสูงขึ้น ซึ่งตรงนี้แพรเรียนรู้จากน้องชาย (อ่านเพิ่ม : เปิดอาณาจักรร้อยล้าน! พงศธร ธรรมวัฒนะ เจ้าพ่อของเล่นสาย 'ดีไซเนอร์ทอยส์' หนึ่งเดียวในไทย)

โชว์ของสะสมล้ำค่า

ตัวที่ 1 Cinderella เป็นลิมิเต็ดที่หาซื้อได้แค่ 1 ใน 4,000 ตัว เป็นของหายากและมีมูลค่ามาก

แอนนา

ตัวที่ 2 Anna แพรบอกว่าชอบซีรีส์นี้มาก เป็นตัวที่มีคนแย่งซื้อกันเยอะมากที่สุด ตัวนี้ได้มาในราคาครึ่งแสน แต่ตอนนี้ราคาไปไกล

Elsa

ตัวที่ 3 Elsa ตัวนี้น่ารักและหายากอีกหนึ่งตัวได้มาในราคา 6 หมื่นบาท ปัจจุบันราคาเกือบ 1 แสน แพงเพราะคนชอบคาแรกเตอร์เธอมากๆ 

ตัวที่ 4 Rapunzel ตัวนี้ติดอันดับเพราะว่าเธอชอบพวกฟังโก๊ะ ซึ่งมีความน่ารัก แนะนำให้คนที่เริ่มสะสมลองดูแล้วจะชอบ

Frozen singing dolls set และราพันเซล

ตัวที่ 5 Frozen singing dolls set หน้าตาคล้ายบาร์บี้ แต่เมืองไทยไม่มีขาย บางตัวมีเสียง ร้องเพลงได้ เป็นอีกหนึ่งตัวที่หายากและมีเสน่ห์

มาริโอ

ตัวที่ 6 Mario Grin เป็นตัวพิเศษตัวเดียวในโลกไม่มีใครมีเลย ซึ่งรอน อิงลิช (เจ้าของแบรนด์ Popaganda ชื่อดังระดับโลก) ให้เป็นของขวัญ แต่ตัวนี้เป็นต้นแบบเป็นสีชมพู เพราะเวลาทำสีจะได้เห็นดีเทลชัด ตัวนี้ประเมินค่าไม่ได้ ไม่มีใครมีเลย ไม่คิดที่จะขายด้วย

อนาคตของเจ้าแม่ดิสนีย์!!!

อนาคตเราจะเห็น "แพร เจ้าแม่ดิสนีย์" เป็นแบบไหน..? เธอบอกว่า อยากจะเป็นคนยุคใหม่ที่ไม่ได้โฟกัสแค่ดิสนีย์ เนื่องจากทุกวันนี้แบรนด์อื่นก็มีมาแรงมาก เราอยากเปิดโอกาสให้ตัวเราเองและลูกค้าด้วย อยากขยายฐานลูกค้าที่รักในตัวของเล่นของสะสม แพรอยากจะเป็นเหมือนฟังโก๊ะ ที่ทำได้ทุกคาแรกเตอร์ และในอนาคตแพรอยากจะทำตัวคาแรกเตอร์ของเราเองด้วยซึ่งตอนนี้เราทำแค่สองสามตัว ขายดีมาก

สุดท้าย แพรบอกว่า สิ่งที่ได้จากของเล่นนอกจากได้ความสุข ทุกวันนี้เราไม่รู้สึกว่าเราทำงาน แพรคิดว่าถ้าคนได้ทำในสิ่งที่เรารักก็น่าจะเป็นแบบนี้เหมือนกัน อย่างถ้าเราไปเป็นพนักงานบริษัททำในสิ่งที่เราไม่รัก เราจะรู้สึกการตื่นไปทำงานในตอนเช้ามันยาก พอไปนั่งทำงานก็เมื่อไหร่จะหมดเวลา ในขณะที่เราทำแบบนี้แพรรู้สึกว่าเราทำตอนไหนก็ได้ ทุกวันนี้เหมือนแพรไม่ได้ทำงานแต่เหมือนกับมาทำวิ่งที่เรารักในทุกวัน เหมือนเป็นไลฟ์สไตล์ของเรา

**ล้อมกรอบคำคม**

ถ้าคนที่อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจแบบแพรต้องทำอย่างไร ?

หนึ่งคือคิดว่าว่าเราชอบจริงไหม เอาความคิดนี้อยู่กับตัวเองสัก 4-5 เดือน นั่งคิดไปซ้ำๆ ซึ่งกว่าเราจะเปิดร้านได้ใช้เวลา 2-3 ปี คนเริ่มต้นธุรกิจเริ่มง่าย ทุกวันนี้คนบอกว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว แพรว่ายัง เราแค่เปิดตัวได้สวย เรายังมีเวลาคิดอีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าเด็กรุ่นใหม่ยุคนี้มีความคิดเยอะ ตื่นเต้นง่าย และตัดสินใจเร็ว โอกาสที่จะล้มเหลวมีค่อนข้างเยอะ ดังนั้นจะทำอะไร ลงทุนอะไรอยากให้คิดให้ดีก่อนไม่อยากให้มองคนอื่นทำว่าง่าย ซึ่งไม่ง่าย การแข่งขันสูง หนึ่งเรามีเวลาเป็นคู่แข่งของเรา หนังมีเวลาเข้าแค่หนึ่งเดือนต้องขายของภายในหนึ่งเดือน ไปเดือนต่อไปก็เป็นอีกตัวนึงเราต้องเปลี่ยนความสนใจไปที่อีกตัวหนึ่ง เราต้องปรับให้ทัน เพราะฉะนั้นจะทำอะไรต้องคิดให้ดี ที่สำคัญที่สุดคือทำในสิ่งที่เรารัก"

**ประวัติการศึกษา**

ป.ตรี Assumption University Arts Business English 
ป.โทใบแรก Kingston University สายBusiness Management 
ป.โทใบที่สอง London College of Fashion สายFashion Marketing

หางานตามสาขาอาชีพ

JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved

jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด DBD

Top