ปัจจุบันการดูแลพนักงานเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับองค์กรที่ต้องการรักษาพนักงานที่มีคุณภาพไว้กับบริษัท ไม่ใช่เพียงเรื่องของเงินเดือนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสวัสดิการและผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีในฐานะผู้ประกอบการ คุณควรให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงานด้วยการจัดสวัสดิการที่ครอบคลุมด้านสุขภาพ เวลาส่วนตัว การออม และอื่น ๆ สวัสดิการพนักงานยุคใหม่ที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยดึงดูดให้คนอยากมาร่วมงานกับคุณ แต่ยังช่วยรักษาพนักงานปัจจุบันไว้กับบริษัท และสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานอีกด้วยมาร่วมพัฒนาบริษัทของคุณให้เติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการดูแลพนักงานอย่างเป็นระบบและครอบคลุม รับรองว่าพนักงานของคุณจะมีความสุขและรักในองค์กรมากขึ้น!
1. Work from Home
การทำงานที่บ้าน เป็นการทำงานที่ไม่เสียเวลาในการเดินทาง จากผลการวิจัยพบว่าคนทำงานสามารถเอาเวลาที่ใช้ในการเดินทางประมาณ 1-2 ชั่วโมงมาใช้ในการทำงานที่บ้านได้ ซึ่งทำให้ได้งานมากกว่า ทำให้เกิดผลผลิตในการทำงานมากขึ้นกว่าเดิม 10-20% เมื่อเทียบกับวันที่เดินทางมาทำงานที่บริษัท ตัวพนักงานเองยืนยันว่าวันที่ได้ทำงานจากที่บ้านนั้น ทำให้เขารู้สึกทุ่มเทให้กับงาน และมีสมาธิในการทำงานมากกว่ามาทำงานที่บริษัท และทำให้ทำงานได้ยาวนานกว่านั่งทำงานที่บริษัท การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพไม่จำเป็นว่าจะต้องทำในออฟฟิศเท่านั้น นี่คือความคิดของกลุ่มแรงงานรุ่นใหม่ จากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา กลุ่มคนเหล่านี้ได้เรียนรู้และแสดงให้เห็นว่าการทำงานที่บ้านก็มีประสิทธิภาพไม่แตกต่างจากที่ออฟฟิศ แต่การทำงานที่ออฟฟิศต่างหากที่ทำให้การประสิทธิลดลง เพราะต้องเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทาง และยังมักถูกแทรกแซงเวลาในการทำงาน ดังนั้นหลายบริษัทจึงควรเพิ่มนโยบายการทำงานแบบไฮบริด หรือทำงานที่บ้านสลับกับออฟฟิศ ซึ่งตอบโจทย์กับความต้องการของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
2. ประกันสุขภาพสำหรับพนักงาน
สำหรับองค์กรที่ต้องการดูแลพนักงานอย่างดี การมีแผนประกันสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็น เพราะช่วยให้พนักงานได้รับการรักษาที่มีมาตรฐาน และลดภาระค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก แผนประกันที่ครอบคลุมทั้งสุขภาพ อุบัติเหตุ ทันตกรรม และการตรวจสุขภาพประจำปี จะช่วยให้พนักงานและครอบครัวมีความอุ่นใจในการดูแลสุขภาพแม้ว่าการจัดหาประกันสุขภาพให้พนักงานอาจเป็นภาระค่าใช้จ่ายสำหรับบริษัท แต่ก็สามารถใช้วิธีให้พนักงานร่วมรับผิดชอบค่าเบี้ยประกันในอัตราที่ต่ำกว่าท้องตลาด โดยอาศัยจำนวนพนักงานทั้งหมดเป็นตัวช่วยในการต่อรองค่าเบี้ยประกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งบริษัทและพนักงานการลงทุนด้านประกันสุขภาพสำหรับพนักงานจึงเป็นการสร้างความมั่นคงและความผูกพันในองค์กร ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานในระยะยาว
3.ลาหยุดได้แต่ยังรับค่าจ้าง
แม้ว่านายจ้างจะต้องการเห็นพนักงานมาทำงานอย่างสม่ำเสมอ แต่เราทุกคนก็มีชีวิตส่วนตัวและต้องการเวลาพักผ่อนเพื่อเติมพลังให้ชีวิต ดังนั้นการลาหยุดโดยยังได้รับค่าจ้างจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพนักงานหลายคนตามกฎหมายแรงงาน พนักงานที่ทำงานครบ 1 ปี มีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีไม่น้อยกว่า 6 วันทำงานโดยยังได้รับค่าจ้าง บริษัทสามารถเพิ่มสิทธิประโยชน์เหล่านี้ให้มากขึ้น เช่น เพิ่มวันหยุดพักผ่อนตามอายุงาน จ่ายชดเชยเป็นเงินกรณีไม่ได้ใช้สิทธิ หรือเพิ่มการลาหยุดอื่น ๆ ที่ยังได้รับค่าจ้าง เพื่อให้เหมาะสมกับพนักงานในบริษัท
4.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ / สหกรณ์ออมทรัพย์
ปัจจุบันคงเป็นการยากที่จะมีแผนบำนาญสำหรับพนักงานรุ่นใหม่ แต่บริษัทเองก็ยังควรมอบความช่วยเหลือด้านการเงินโดยสามารถจัดตั้งเป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีส่วนที่บริษัทสมทบให้ในอัตราที่เหมาะสมเพื่อช่วยเรื่องการออมและการวางแผนเกษียณของพนักงาน บางครั้งอาจมาในรูปแบบของสหกรณ์ออมทรัพย์ที่มีเพิ่มเติมสวัสดิการการกู้ยืมอัตราดอกเบี้ยต่ำแก่พนักงานในบริษัทในยามจำเป็นก็ได้
5.สวัสดิการด้านการเดินทาง
สวัสดิการในที่ทำงานเป็นปัจจัยสำคัญที่หลายคนให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เมื่อพิจารณาเข้าร่วมงานกับองค์กรใด ๆ ฝ่ายทรัพยากรบุคคลมักใช้ข้อเสนอสวัสดิการพิเศษเป็นเครื่องมือในการดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีคุณภาพ นอกเหนือจากการจ่ายค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนบางบริษัทอาจรวมสวัสดิการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจค่าตอบแทน แต่บางแห่งก็เสนอแยกต่างหาก เพื่อให้ผู้สมัครเห็นถึงความคุ้มค่าและความใส่ใจขององค์กรอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทางพิเศษ รถรับ-ส่งประจำ หรือรถประจำตำแหน่ง สวัสดิการเหล่านี้ล้วนเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และรู้สึกถึงความห่วงใยจากองค์กร ซึ่งคุณสามารถค้นหาสวัสดิการที่ตรงกับความต้องการของคุณ และเลือกเข้าร่วมงานกับองค์กรที่มอบสิ่งที่คุณต้องการ เพื่อเริ่มต้นอาชีพที่ทั้งมั่นคงและมีความสุขได้
ประโยชน์ของการมีสวัสดิการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของ Gen Y ,Z
การมีสวัสดิการที่ตรงใจคนทำงานรุ่นใหม่ทั้ง Gen Y และ Gen Z จะช่วยให้องค์กรได้รับประโยชน์ในหลายด้าน ดังนี้
1. ดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีคุณภาพไว้ได้ - สวัสดิการที่ตรงใจพนักงานจะช่วยให้องค์กรสามารถดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถไว้ได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องการสูญเสียบุคลากรที่มีค่า
2. เพิ่มความผูกพันต่อองค์กร - พนักงานจะรู้สึกว่าองค์กรเข้าใจและตอบสนองความต้องการของพวกเขา ก่อให้เกิดความผูกพันและความจงรักภักดีต่อองค์กร ซึ่งจะส่งผลดีต่อความมุ่งมั่นในการทำงาน
3. ส่งเสริมประสิทธิภาพและผลผลิต - พนักงานที่มีความสุขและความผูกพันจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่ผลการดำเนินงานที่ดีขององค์กร
หากองค์กรของคุณต้องการดึงดูดและรักษาพนักงานรุ่นใหม่ไว้ ลองคิดถึงผลประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับจากสวัสดิการที่ตรงใจการมอบสวัสดิการที่ดีให้พนักงานจะแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของบริษัท ทำให้พวกเขารู้สึกสะดวกสบายทั้งกายและใจ สิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดความพึงพอใจและความรักในองค์กรพนักงานที่มีความสุขย่อมสามารถสร้างผลงานและผลกำไรที่โดดเด่นให้แก่บริษัทได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การจัดสวัสดิการที่ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลและผู้บริหารคุณพร้อมที่จะยกระดับสวัสดิการของพนักงานในองค์กรของคุณแล้วใช่ไหม?
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด